เนื่องจากเจ้ากันต์ มีความเติบโตทางร่างกายเป็นอย่างมากซึ่งโตวันโตคืน จึงมีปัญหาในการลดน้ำหนัก และหาคู่ชกที่เหมาะสมไม่ได้ส่งผลทำให้เจ้าตัวต้องชกกับชาวต่างชาติอยู่เป็นประจำหรือชกในเมืองนอก ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2563 ตะวันฉายได้เซ็นสัญญากับ ONE Championship  และได้เปิดตัวครั้งแรกเป็นการเอาชนะคู่ต่อสู้ชาวต่างชาติอย่าง ฌอน แคลนซี หลังจากที่ชนะน็อคไปอย่างสวยงาม เจ้าตัวได้มีโอกาสขึ้นวัดฉันกลับ สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง แต่ครั้งนั้นเจ้าตัวเป็นโอกาสแพ้คะแนนไปแบบไม่เอกฉันท์ และมีรายการต่อเนื่องอย่างเรื่อยมา ไฟต์ที่ 3 ในรายการวัน ชกกับ เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์ เจ้าตัวเป็นฝ่ายเอาชนะน็อคไปตั้งแต่ยุคแรก และได้ชกกับ นิคลาส ลาร์เซน ในไฟต์ต่ามา และเป็นฝ่ายเอาชนะน็อคไปในยกที่ 2  ซึ่งเจ้าตัวได้โชว์ความร้อนแรงเข้าตา บอสชาตรี ศิษย์ยอดธง เป็นอย่างมาก จึงได้โอกาส ชิงแชมป์โลกวันมวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต กับแชมป์คนปัจจุบันอย่าง เพชรมรกต เพชรยินดีอคาเดมี่ ที่ป้องกันแชมป์มาอย่างยาวนาน ปรากฏว่าครั้งนั้นเจ้ากันต์ ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้อย่างเอกฉันท์ และคว้าเข็มขัดแชมป์โลกกับค่ายมวย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม หลังจากที่เจ้าตัวได้แชมป์มาครองแล้วเจ้าตัวก็ได้ป้องกันแชมป์อย่างต่อเนื่อง และโชว์ฟอร์มดี สามารถชนะ TKO  จามาน ยูซูพอฟ ไปเพียงแค่ยกแรกใช้เวลาแค่  49 วินาทีเท่านั้น หลังจากนั้นก็ขึ้นป้องกันแชมป์กับ ดาวิต คิเรีย นั่นเป็นฝ่ายเอาชนะ TKO ไปในยคที่ 3 อีกด้วย และจะมีบิ๊กแมตซ์ใหญ่ป้องกันแชมป์กับ ซุปเปอร์บอล สิงห์มาวิน แต่ครั้งนี้ซุปเปอร์บอลเป็นฝ่ายถอนชก เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้ออักเสบ แต่ไม่มีคู่ต่อสู้คนไหนเลยที่อยากเจอกับ ตะวันฉาย บอสชาตรีจึงได้ติดต่อหา โจ ณัฐวุฒิ และเขาได้ตอบตกลงรับงานเข้าวินแทนซุปเปอร์บอล ซึ่งวันนั้นมวยแทนทำได้ดีมากและเป็นไฟต์ ที่ทำให้ตะวันฉายเจ็บตัวมากกว่าทุกไฟเลยก็ว่าได้ แต่เจ้าตัวก็สามารถเอาชนะไปอย่างเอกฉันท์ และครองแชมป์โลกมาจนถึงปัจจุบัน